การเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ภายในอาคาร หรือสถานที่ทำงาน เป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด และสามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง ดังนั้น การวางแผนการอพยพหนีไฟจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานประกอบการหรืออาคารที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก การมีแผนการอพยพที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงและความสูญเสียในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้
แผนอพยพหนีไฟ คืออะไร
แผนอพยพหนีไฟ คือ เอกสารหรือแนวทางที่จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดขั้นตอน วิธีการ และมาตรการต่าง ๆ สำหรับการอพยพผู้คนออกจากอาคารหรือพื้นที่ที่อาจได้รับอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยแผนนี้จะช่วยให้การอพยพเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และปลอดภัย โดยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บและเสียชีวิตให้น้อยที่สุด
แผนอพยพหนีไฟครอบคลุมถึงรายละเอียดหลายด้าน เช่น เส้นทางการอพยพ จุดรวมพล จุดทางออกฉุกเฉิน การติดตั้งและตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย การฝึกซ้อมอพยพ และขั้นตอนการสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน โดยจะมีการกำหนดหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลเพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดประสงค์ของแผนอพยพหนีไฟ
- ป้องกันชีวิตและลดการบาดเจ็บ – เพื่อให้ผู้คนสามารถอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
- ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน – การอพยพอย่างเป็นระบบช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุเพลิงไหม้
- เตรียมความพร้อมในการรับมือ – แผนอพยพจะทำให้ทุกคนทราบถึงขั้นตอนและมีความพร้อมในการดำเนินการในกรณีฉุกเฉิน
การเตรียมแผนอพยพหนีไฟอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในสถานประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง
ขั้นตอนการทำแผนอพยพหนีไฟ
1. ทำการประเมินความเสี่ยง
ก่อนที่จะเริ่มวางแผนการอพยพหนีไฟ จำเป็นต้องทำการประเมินความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ในพื้นที่นั้น ๆ โดยการพิจารณาสาเหตุที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความเสี่ยง การเก็บสารไวไฟ หรือการละเลยมาตรการความปลอดภัย การประเมินความเสี่ยงจะช่วยให้สามารถจัดทำแผนการอพยพที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะเจาะจง
1.1 ตรวจสอบพื้นที่
การตรวจสอบพื้นที่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนการอพยพ โดยต้องพิจารณาถึงความสามารถในการเข้าถึงทางออก การจัดวางของสิ่งของต่าง ๆ และเส้นทางอพยพที่ชัดเจน ควรมีการทำแผนที่แสดงเส้นทางอพยพและจุดนัดพบเพื่อให้ผู้คนเข้าใจได้ง่าย
2. กำหนดเส้นทางอพยพหนีไฟ
การกำหนดเส้นทางอพยพหนีไฟที่ชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้คนสามารถออกจากอาคารได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เส้นทางอพยพควรมีการเตรียมการดังนี้ :
2.1 เส้นทางที่ปลอดภัย
เส้นทางอพยพควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณที่มีควันหรือเปลวไฟ ควรเลือกเส้นทางที่ไม่ซับซ้อน และมีการติดตั้งสัญญาณหรือป้ายบอกเส้นทางอพยพอย่างชัดเจน
2.2 จุดนัดพบ
ควรกำหนดจุดนัดพบหลังจากการอพยพ โดยจุดนี้ต้องอยู่ห่างไกลจากอาคารและปลอดภัยจากอันตราย เพื่อให้ผู้ที่ออกจากอาคารสามารถรวมตัวกันได้อย่างมีระเบียบ
3. ทำการฝึกซ้อมการอพยพ
การฝึกซ้อมเป็นส่วนสำคัญของแผนการอพยพ การฝึกซ้อมจะช่วยให้ผู้คนคุ้นเคยกับขั้นตอนการอพยพและเส้นทางที่ต้องใช้ในกรณีฉุกเฉิน
3.1 ฝึกซ้อมประจำปี
ควรจัดให้มีการฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกปี หรือทุก 6 เดือน เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการอพยพที่ถูกต้อง
3.2 ประเมินผลการฝึกซ้อม
หลังจากการฝึกซ้อม ควรมีการประเมินผลเพื่อตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนการอพยพได้ถูกต้องหรือไม่ และควรมีการปรับปรุงแผนการอพยพตามข้อเสนอแนะที่ได้รับ เมื่อมีการปรับปรุงเส้นทางอพยพใหม่ หรือโครงสร้างอาคารแตกต่างจากเดิมควรมีการฝึกซ้อมใหม่อีกครั้งในทันที
โดยทั่วไปแล้วการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟประจำปี จะอบรมพร้อมกับดับเพลิงขั้นต้น ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ต้องมีการอบรมให้กับพนักงานประจำทุกปีเช่นกัน เราขอแนะนำ อบรมดับเพลิงขั้นต้น และซ้อมอพยพหนีไฟ จาก เซฟตี้เมมเบอร์ พร้อมจัดอบรมทั้งในพื้นที่กรุงเทพ และ 76 จังหวัดทั่วไทย
4. เรียนรู้วิธีให้ข้อมูลที่สำคัญ และการสื่อสาร
การสื่อสารที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญในขณะเกิดเหตุการณ์อัคคีภัย ควรมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับแผนการอพยพให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ และหลังจากมาถึงจุดรวมพลควรมีการรายงานให้กับ ทีมดับเพลิงได้ทราบ
4.1 จัดทำคู่มือการอพยพ
ควรจัดทำคู่มือการอพยพที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้คนสามารถศึกษาวิธีการอพยพได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถแจกจ่ายให้กับพนักงานและผู้ที่อยู่ในอาคาร
4.2 ประชุมชี้แจง
การจัดประชุมเพื่อชี้แจงแผนการอพยพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นสามารถช่วยให้ผู้คนมีความรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการอพยพหนีไฟ
5. เตรียมอุปกรณ์และทรัพยากร สำหรับเหตุฉุกเฉิน
การเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการอพยพเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม อุปกรณ์ที่สำคัญในการอพยพได้แก่:
5.1 ถังดับเพลิง
การมีถังดับเพลิงในพื้นที่สามารถช่วยควบคุมเพลิงไหม้ในระยะแรกได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอพยพได้อย่างปลอดภัย
5.2 อุปกรณ์ช่วยชีวิต
ควรเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น หน้ากากกันควัน และอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ในระหว่างการอพยพ
6. ประเมินและปรับปรุงแผนการอพยพ
แผนการอพยพหนีไฟ ควรได้รับการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
6.1 ทำการประเมินแผนการอพยพ
ควรมีการประเมินแผนการอพยพหลังจากเหตุการณ์จริง เพื่อดูว่าการอพยพดำเนินไปอย่างไร มีข้อบกพร่องหรือปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
6.2 การปรับปรุงตามข้อเสนอแนะ
การนำข้อเสนอแนะจากการประเมินมาปรับปรุงแผนการอพยพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอพยพในอนาคต
7. กำหนดบทบาทรับผิดชอบของบุคลากร
การกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบของบุคลากร ที่เกี่ยวข้องในแผนการอพยพ เพื่อให้การอพยพเป็นไปอย่างมีระเบียบรู้ว่าใครทำหน้าที่อะไร ไม่สับสนเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น
7.1 กำหนดบุคลากรประจำจุดนัดพบ
ควรมีการแต่งตั้งบุคลากรที่รับผิดชอบในการนับจำนวนผู้เข้าร่วมและดูแลความปลอดภัยในจุดนัดพบ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัย
7.2 การสื่อสารระหว่างบุคลากร
การมีระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างบุคลากรจะช่วยให้การอพยพเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
สรุป
การวางแผนการอพยพหนีไฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้คนในอาคาร การประเมินความเสี่ยง การกำหนดเส้นทางอพยพ การฝึกซ้อม การให้ข้อมูลและการสื่อสาร การเตรียมอุปกรณ์และทรัพยากร การประเมินและปรับปรุงแผนการอพยพ รวมถึงการกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบของบุคลากร เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรควรคำนึงถึงเพื่อให้แผนการอพยพมีประสิทธิภาพและสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ในกรณีเกิดเหตุการณ์อัคคีภัย
อ้างอิง
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. (2561). แผนการป้องกันและระงับอัคคีภัย. สืบค้นจาก เว็บไซต์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- องค์การอนามัยโลก. (2562). แนวทางการป้องกันอัคคีภัยในสถานที่ทำงาน. สืบค้นจาก เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก
- สำนักงานความปลอดภัยในการทำงาน. (2563). แนวทางการฝึกอบรมและการซ้อมอพยพหนีไฟ. สืบค้นจาก เว็บไซต์สำนักงานความปลอดภัยในการทำงาน